รถลาก รถยก รถสไลด์0935431132 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
รถลาก รถยก รถสไลด์ อำเภอกุยบุรี
รถลาก รถยก รถสไลด์ อำเภอทับสะแก
รถลาก รถยก รถสไลด์ อำเภอบางสะพาน
รถลาก รถยก รถสไลด์ อำเภอบางสะพานน้อย
รถลาก รถยก รถสไลด์ อำเภอปราณบุรี
รถลาก รถยก รถสไลด์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
รถลาก รถยก รถสไลด์ อำเภอสามร้อยยอด
รถลาก รถยก รถสไลด์ อำเภอหัวหิน
เข้าดูผลงานที่ http://www.4-6-10trucks.com/index.php/board,14.0.html
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดในภาคกลางตามการแบ่งการปกครองของประเทศไทย ในขณะที่การแบ่งทางภูมิศาสตร์จัดเป็นจังหวัดในภาคตะวันตก และการแบ่งทางอุตุนิยมวิทยาจัดเป็นจังหวัดภาคใต้ตอนบน
ประวัติศาสตร์
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาไม่ค่อยแน่ชัด เนื่องจากเป็นพื้นที่แคบ ยามมีศึกสงครามยากแก่การป้องกันจึงต้องปล่อยให้เป็นเมืองร้างหรือยุบเมืองเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเพชรบุรี ในอดีตเป็นเพียงเมืองชั้นจัตวาเล็ก ๆ ที่รวมกันอยู่ภายใต้การปกครองของเมืองเพชรบุรี พอถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงได้โปรดเกล้าฯ ตั้งเมือง เมืองบางนางรม ที่ปากคลองบางนางรม แต่ที่ดินไม่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกจึงย้ายที่ว่าการเมืองไปตั้งที่เมืองกุย ที่มีความอุดมสมบูรณ์และการตั้งบ้านเรือนหนาแน่นกว่า
ครั้นสมัยรัชกาลที่ 4 พ.ศ. 2398 โปรดเกล้าฯให้เปลี่ยนชื่อจาก “เมืองกุย” เป็น “เมืองประจวบคีรีขันธ์” โดยรวมเมืองกุย เมืองคลองวาฬ เมืองบางนางรม เข้าด้วยกัน โดยที่ตั้งเมืองยังคงตั้งอยู่ที่เมืองกุย คืออำเภอกุยบุรี ในปัจจุบัน เพื่อให้ชื่อคล้องจองกันกับระหว่างเมืองประจวบคีรีขันธ์ กับ"เมืองประจันตคีรีเขต" ซึ่งเดิมคือเกาะกงที่แยกออกจากจังหวัดตราด
ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2441 จึงย้ายมาอยู่ที่บ้านเกาะหลัก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจัดการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมืองชั้นจัตวาซึ่งขึ้นตรงกับเมืองเพชรบุรี จึงมีสถานะเป็นอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สังกัดเมืองเพชรบุรี ในช่วงนี้เมืองปราณบุรี ซึ่งมีอาณาเขตติดอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ด้านทิศเหนือ ซึ่งเคยมีฐานะเป็นเมืองชั้นจัตวา ขึ้นกับเมืองเพชรบุรี ก็ได้จัดตั้งเป็นอำเภอเมืองปราณบุรี สังกัดเมืองเพชรบุรีด้วย ส่วนเมืองกำเนิดนพคุณขึ้นตรงกับเมืองชุมพร ด้วยมีพระราชดำริสงวนชื่อเมืองปราณไว้ (เมืองเก่าที่ตั้งอยู่ที่ปากน้ำปราณบุรี) ต่อมา วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชองการเหนือเกล้าให้รวมเอาอำเภอเมืองปราณบุรี อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธุ์ จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอกำเนิดนพคุณ จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นเมืองชั้นจัตวามาก่อนเข้ารวมเป็นจังหวัดปราณบุรี ตั้งที่ตำบลเกาะหลัก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเมืองปราณบุรีเป็นเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้องกันการสับสนกับเมืองปราณ ที่ปากน้ำปราณบุรี หลังจากมีการยกเลิกระบบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองประจวบคีรีขันธ์จึงไม่ได้ขึ้นตรงกับเมืองเพชรบุรีและมณฑลราชบุรีอีก
ภูมิศาสตร์
มีเนื้อที่ประมาณ 6,367.620 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,979,762.5 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดเพชรบุรี
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดชุมพร
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอ่าวไทย
ทิศตะวันตก ติดต่อกับประเทศพม่า
ความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ ประมาณ 212 กิโลเมตร และชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 224.8 กิโลเมตร มีส่วนที่แคบที่สุดของประเทศอยู่ในเขตตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จากอ่าวไทยถึงเขตแดนพม่าประมาณ 12 กิโลเมตร ระยะทางจากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงแผ่นดินสายเอเชียหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ประมาณ 399 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงเศษ และตามเส้นทางรถไฟสายใต้ ประมาณ 318 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-6 ชั่วโมง
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกเกด (Manilkara hexandra)
ต้นไม้ประจำจังหวัด: เกด (Manilkara hexandra)
คำขวัญประจำจังหวัด: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สับปะรด สวยสด หาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ
แหล่งท่องเที่ยว
ศาลหลักเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สร้างขึ้นมาในสมัย ร.ต.อำนวย ไทยานนท์ เป็นผู้ว่าราชการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดศาลหลักเมือง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2537 เพื่อให้เป็นสิริมงคลและเป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมือง
อ่าวมะนาว
หว้ากอ
อ่าวบ้านกรูด
อ่าวบางเบิด
อ่าวประจวบ
อ่าวน้อย
ชายฝั่งทะเลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นชายฝั่งทะเลในพื้นที่แหลมผักเบี้ย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกชื่อชายฝั่งทะเลของจังหวัดเพชรบุรี-จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีความยาว 200 กิโลเมตร [7] มีความยาวคอดไปถึงอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ [8] เพื่อแสดงถึงวีรกรรม พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและเพื่อประกาศพระเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ให้ปรากฏพระนามบนแผนที่
อำเภอในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดในภาคกลางตามการแบ่งการปกครองของประเทศไทย ในขณะที่การแบ่งทางภูมิศาสตร์จัดเป็นจังหวัดในภาคตะวันตก และการแบ่งทางอุตุนิยมวิทยาจัดเป็นจังหวัดภาคใต้ตอนบน
ประวัติศาสตร์
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาไม่ค่อยแน่ชัด เนื่องจากเป็นพื้นที่แคบ ยามมีศึกสงครามยากแก่การป้องกันจึงต้องปล่อยให้เป็นเมืองร้างหรือยุบเมืองเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเพชรบุรี ในอดีตเป็นเพียงเมืองชั้นจัตวาเล็ก ๆ ที่รวมกันอยู่ภายใต้การปกครองของเมืองเพชรบุรี พอถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงได้โปรดเกล้าฯ ตั้งเมือง เมืองบางนางรม ที่ปากคลองบางนางรม แต่ที่ดินไม่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกจึงย้ายที่ว่าการเมืองไปตั้งที่เมืองกุย ที่มีความอุดมสมบูรณ์และการตั้งบ้านเรือนหนาแน่นกว่า
ครั้นสมัยรัชกาลที่ 4 พ.ศ. 2398 โปรดเกล้าฯให้เปลี่ยนชื่อจาก “เมืองกุย” เป็น “เมืองประจวบคีรีขันธ์” โดยรวมเมืองกุย เมืองคลองวาฬ เมืองบางนางรม เข้าด้วยกัน โดยที่ตั้งเมืองยังคงตั้งอยู่ที่เมืองกุย คืออำเภอกุยบุรี ในปัจจุบัน เพื่อให้ชื่อคล้องจองกันกับระหว่างเมืองประจวบคีรีขันธ์ กับ"เมืองประจันตคีรีเขต" ซึ่งเดิมคือเกาะกงที่แยกออกจากจังหวัดตราด
ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2441 จึงย้ายมาอยู่ที่บ้านเกาะหลัก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจัดการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมืองชั้นจัตวาซึ่งขึ้นตรงกับเมืองเพชรบุรี จึงมีสถานะเป็นอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สังกัดเมืองเพชรบุรี ในช่วงนี้เมืองปราณบุรี ซึ่งมีอาณาเขตติดอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ด้านทิศเหนือ ซึ่งเคยมีฐานะเป็นเมืองชั้นจัตวา ขึ้นกับเมืองเพชรบุรี ก็ได้จัดตั้งเป็นอำเภอเมืองปราณบุรี สังกัดเมืองเพชรบุรีด้วย ส่วนเมืองกำเนิดนพคุณขึ้นตรงกับเมืองชุมพร ด้วยมีพระราชดำริสงวนชื่อเมืองปราณไว้ (เมืองเก่าที่ตั้งอยู่ที่ปากน้ำปราณบุรี) ต่อมา วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชองการเหนือเกล้าให้รวมเอาอำเภอเมืองปราณบุรี อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธุ์ จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอกำเนิดนพคุณ จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นเมืองชั้นจัตวามาก่อนเข้ารวมเป็นจังหวัดปราณบุรี ตั้งที่ตำบลเกาะหลัก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเมืองปราณบุรีเป็นเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้องกันการสับสนกับเมืองปราณ ที่ปากน้ำปราณบุรี หลังจากมีการยกเลิกระบบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองประจวบคีรีขันธ์จึงไม่ได้ขึ้นตรงกับเมืองเพชรบุรีและมณฑลราชบุรีอีก
ภูมิศาสตร์
มีเนื้อที่ประมาณ 6,367.620 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,979,762.5 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดเพชรบุรี
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดชุมพร
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอ่าวไทย
ทิศตะวันตก ติดต่อกับประเทศพม่า
ความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ ประมาณ 212 กิโลเมตร และชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 224.8 กิโลเมตร มีส่วนที่แคบที่สุดของประเทศอยู่ในเขตตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จากอ่าวไทยถึงเขตแดนพม่าประมาณ 12 กิโลเมตร ระยะทางจากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงแผ่นดินสายเอเชียหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ประมาณ 399 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงเศษ และตามเส้นทางรถไฟสายใต้ ประมาณ 318 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-6 ชั่วโมง
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกเกด (Manilkara hexandra)
ต้นไม้ประจำจังหวัด: เกด (Manilkara hexandra)
คำขวัญประจำจังหวัด: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สับปะรด สวยสด หาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ
แหล่งท่องเที่ยว
ศาลหลักเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สร้างขึ้นมาในสมัย ร.ต.อำนวย ไทยานนท์ เป็นผู้ว่าราชการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดศาลหลักเมือง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2537 เพื่อให้เป็นสิริมงคลและเป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมือง
อ่าวมะนาว
หว้ากอ
อ่าวบ้านกรูด
อ่าวบางเบิด
อ่าวประจวบ
อ่าวน้อย
ชายฝั่งทะเลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นชายฝั่งทะเลในพื้นที่แหลมผักเบี้ย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกชื่อชายฝั่งทะเลของจังหวัดเพชรบุรี-จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีความยาว 200 กิโลเมตร [7] มีความยาวคอดไปถึงอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ [8] เพื่อแสดงถึงวีรกรรม พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและเพื่อประกาศพระเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ให้ปรากฏพระนามบนแผนที่
อำเภอในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- อำเภอกุยบุรี
- อำเภอทับสะแก
- อำเภอบางสะพาน
- อำเภอบางสะพานน้อย
- อำเภอปราณบุรี
- อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
- อำเภอสามร้อยยอด
- อำเภอหัวหิน
ราคารถสิบล้อรับจ้างประจวบคีรีขันธ์
ชัวร์ว่าจังหวัดที่โตขึ้นๆหรือไม่มีการท่องเที่ยวดีๆแบบประจวบคีรีขันธ์ตรงนั้น
เหตุการณ์ของการสัญจรหรือการกระจายของซื้อของขายจึงพัมนาไปมาก
ต่างว่าสนทนากันตรงๆก็อาจสั้นไปเพียงแค่รถไฟฟ้าทั้งบนดิน ใต้พิภพ พร้อมทั้งท่าอากาศยานเฉพาะแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างไร
ส่วนเรื่องของกลไกเด่นของโลจิสติกส์วิธีเหตุรถรับจ้างขนส่งประจวบคีรีขันธ์
ใช่ไหมบริการอื่นๆในการออกตัวแบ่งของซื้อของขายนั้นแม้ว่าจะมีกระแสความก้าวหน้าไปแล้วแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคงจะไม่ได้โดยตลอดทั้งจังหวัดนัก
พร้อมด้วยมีไม่กี่บริษัทอย่างเดียวที่ให้บริการโดยตลอดทั่วจังหวัด
ซึ่งบริษัทสิ่งของฉันนั้นได้ให้บริการรถยนต์รับจ้างในชนิดรถบรรทุกสินค้าประจวบคีรีขันธ์เป็นพื้น
ได้รับขึ้นต้นเปิดให้บริการที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ครั้นไม่ช้านานนี้โดยเน้นไปที่ตำแหน่งที่ตั้งที่ฉีกขาดการบริการลักษณะนี้และส่วนตัวเมืองบางส่วนแต่สำหรับกล่าวตอบตอบสนองข้อคดีอยากการบริการที่กล้าจะยังขาดอยู่พร้อมกับรถยนตืในบริการของข้าพเจ้าจะต่อเรือไปด้วย
รถหกล้อ รถ10ล้อ รถเทรลเลอร์และรถพ่วงนั่นเอง
ซึ่งรถยนต์แต่ละเภทก็จะมีการใช้งานที่แปลกแยกกันออกไป และรถยนต์แต่ละประเภทก็มีข้อคดีฉีกแนวกันดังนี้
รถหกล้อรับจ้างประจวบคีรีขันธ์
เป็นรถประเภทแรกที่ข้าพเจ้ากำลังจะพูดถึงและเพราะส่วนมากจากนั้นการใช้งานรถหกล้อรับจ้างในจังหวัดนี้กล้าหาญจะไม่มากมายนักแต่ก็ถือว่ายังมีเรื่องต้องการในการใช้บริการอยู่บ้างกล้าหาญจะเกี่ยวมากจากขีดจำกัดต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ของส่วนแบ่งการบรรทุกของ
ไม่ใช่หรือแรงส่งของเครื่องมือในการเดินทางที่อาจจะน้อยไปนิดไม่สมกับการขนของมากๆและการขนย้ายแตกต่างจังหวัดนั่นเอง
แต่รถหกล้อรับจ้างก็นับว่าเป็นรถประเภทหนึ่งที่ผู้บริโภคส่วนมากนิยมใช้บริการด้วย
รถ 10
ล้อรับจ้างประจวบคีรีขันธ์
หยิบเป็นบริการที่เหล่าคนเลือกใช้เป็นอนุกรมเริ่มแรกๆเลยเพราะข้อคดีเก่งในการประทุกของได้มาก
พร้อมกับยังมีมูลค่ากลางๆไม่แพงจนเกินไปด้วย
รวมแล่นเรื่องของการทำกระแสความเร็วที่ถือว่าใช้ได้ล่วงแท้จริงอย่างไรก็ตามก็อาจจะมีข้อห้ามในการเข้าสู่พท.แคบๆอยู่บ้างเกี่ยวข้องจากมีสัดส่วนค่อนข้างใหญ่และวงล้อในการเลี้ยวกว้างนั่นเองอย่างไรก็ตามเพื่อการที่สามารถขนของได้มากมายจึงทำให้เกิดความคุ้มราคาแบบสุดๆ
รถพ่วง
รถพ่วงประจวบคีรีขันธ์ เป็นรถที่ควรจะจะมีคนใช้งานนิดเดียวยิ่ง
หากไม่ใช่คนที่ต้องการขนย้ายปริมาณมากจริงๆและส่วนมากกระผมก็จะเจอการใช้งานในเหตุที่เป็นกงสีที่โตจริงๆมาหาขอเช่าบริการรถเทรลเลอร์พร้อมทั้งรถพ่วงสำหรับขนย้ายของที่ต้องการการกันกันจากลมหรือฝน
ไม่ใช่หรือต้องการความด่วนในการขนย้าย ซึ่งชัวร์ว่าค่าก็แพงขึ้นยินยอมไปด้วย
ก็คงต้องรุ่งโรจน์เสด็จกับงบของแต่ละคนว่ารอบรู้ใช้จ่ายได้ไม่เบาแค่อะไรนั่นเอง
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง: http://xn--12ccp1dfod4eca5f5hmi.net/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น